เมล็ดไมโครกรีน ผักจิ๋ว คุณประโยชน์สูงทางเลือกใหม่คนรักสุขภาพ

เมล็ดไมโครกรีน   ไม่ใช่ชื่อขอมันนะ ไมโคกรีน คือ ผัก, สมุนไพร และเหล่าดอกไม้ที่ทานได้บางชนิดที่เราเก็บเกี่ยวเค้าในช่วงก่อนที่จะโตเป็นต้นใหญ่ ถึงมันจะมีไซส์เล็กแต่คุณค่าทางอาหาร และรสชาติกลับสวนทาง ผัก สมุนไฟร ดอกไม้อะไรบ้างที่มีขายในแบบไมโครกรีนส่วนใหญ่ที่เห็นที่บ้านเราชัดๆก็จะมี ต้นอ่อนทานตะวัน โต้วเหมี่ยว ผักโขม มัสตาร์ด เคล บร็อคโคลี โหรพาหัวไชเท้า ร็อกเก็ต โป๊ยกั๊ก โบราจ ผักชี ผักชีลาว เครส เฟนเนล พาสลีย์ กะหล่ำปลี โคลราบิ ถั่ว ดอกดาวเรือง

สารอาหารที่ได้จากไมโครกรีน ถึงไมโครกรีนนั้นจะจิ๋วแต่จากงานวิจัยต่างๆล้วนบอกว่ามันเปี่ยมไปด้วยสารอาหารอันแสนจะมีคุณค่า ไมโครกรีนของผักบางชนิดถือว่าเป็น Super food เลยทีเดียว กระทรวงเกษรของประเทศอเมริกาเคยบอกว่าไมโครกรียนในผักบางชนิดกักเก็บสารอาหารไว้มากกว่าตอนที่มันโตเต็มวัยเสียอีก

อย่างกะหล่ำปลีแดง ที่ได้รับการสนใจอย่างมากว่ามันอาจจะช่วยป้องกันการเกิดโรคเรื้อรัง แบบโรคหัวใจและหลอดเลือดมาแรงแซงโค้งอย่างเหนือชั้น กับกระแสผักจิ๋ว ไมโครกรีน (Microgreens) กับประโยชน์และคุณค่ามากมาย ตอบสนองความต้องการ ของคนในยุคปัจจุบัน นอกจากประโยชน์ที่มากมายแล้ว

ยังมีรูปลักษณ์ที่สวยงาม น่ารับประทาน เชฟตามโรงแรม ร้านอาหาร นิยมเอาเจ้าผักจิ๋ว เหล่านี้วางตกแต่งในจานอาหาร ซึ่งทำให้อาหารดูสวยดูน่ารับประทานมากข้น และกลายเป็นอาหารจานสุขภาพที่น่าสนใจขึ้นมาทันที ผักจิ๋ว ไมโครกรีน (Microgreens) กำลังเป็นที่นิยมมากในขณะนี้ ด้วยความสวยงามของสีสัน เนื้อสัมผัสที่กรอบอร่อย

และสารอาหารที่มีคุณค่ามากมาย ทั้งนี้ มีการวิจัยพืชต้นอ่อน อย่าง กะหล่ำปลีแดง ผักชี และหัวไชเท้าแดง พบว่า ต้นอ่อนเหล่านี้มีสารอาหารสำคัญๆ มากกว่าพืชที่โตแล้วหลายเท่าทีเดียว อย่างเช่น ต้นอ่อนของกะหล่ำปลีแดง มีวิตามินอีมากกว่ากะหล่ำที่โตเต็มที่แล้วถึง 40 เท่า สร้างความฉงนให้กับนักวิจัย จนต้องกลับไปเช็คแล้วเช็คอีกอยู่หลายรอบ นอกจากนั้นยังมีวิตามินซีมากกว่า 6 เท่า ส่วนต้นอ่อนของผักชี มีเบต้า-แคโรทีน มากกว่าผักชีที่โตแล้ว 3 เท่า

 

เมล็ดไมโครกรีน ผักสวนครัวอายุสั้น ปลูกง่าย ใช้เวลาน้อย

นักวิจัยยังได้ประเมินระดับของสารอาหารที่จำเป็น 4 กลุ่มในผักไมโครกรีนที่ขายกันในท้องตลาด มีกลุ่มวิตามินเค วิตามินซี วิตามินอี สารลูทีนในกลุ่มเบต้า-แคโรทีน ซึ่งก็พบว่า ระดับของวิตามินซี วิตามินเค และวิตามินอี จะพบมากที่สุดในต้นอ่อนของกะหล่ำปลีแดง ผักโขมแดง และหัวไชเท้าสีเขียว ส่วนต้นอ่อนของผักชีอุดมด้วย ลูตินและเบต้า-แคโรทีน สารอาหารเหล่านี้มีความสำคัญมากต่อผิวและตา ช่วยต้านมะเร็ง และมีประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายต่อสุขภาพ

ไมโครกรีน (Microgreen) คือต้นอ่อนของพืชผักชนิดต่าง ๆ ที่เราเคยเห็น เคยรับประทานกันเป็นประจำนี่เองค่ะ ไม่ว่าจะเป็น ผักกาด บร็อคโคลี คะน้า กะหล่ำปลี หัวไชเท้า ผักบุ้ง และอีกเยอะแยะมากมาย สาเหตุที่ไมโครกรีนทำไมจึงโด่งดังและกำลังเป็นนิยมจากกลุ่มคนที่ชอบรับประทานผักและรักสุขภาพ

เพราะคุณสมบัติพิเศษของไมโครกรีนที่อุดมไปด้วยสารอาหารและสารพฤกษเคมีสูง  เมล็ดไมโครกรีน  เช่น ปริมาณวิตามินซี แคโรทีนอยด์ สารประกอบฟีนอล ปริมาณธาตุต่าง ๆ (Ca, Mg, Fe, Zn, Sn และ Mo) โดยเฉพาะอย่างยิ่งสารต้านมะเร็งสูงกว่าในผักโตเต็มวัย ทั้งยังมีผลงานวิจัยรองรับว่า ต้นอ่อนของพืชผักเหล่านี้กินน้อยแต่ได้ประโยชน์มากมาย จึงทำให้กระแสการบริโภคผักรูปแบบใหม่นี้เป็นที่นิยมอย่างมาก

ไมโครกรีน (Microgreen) คือ ต้นอ่อนของพืชผักชนิดต่าง ๆ ที่ยังเจริญเติบโตได้ไม่เต็มที่ หรือเมล็ดพืชที่งอกออกมาได้ประมาณ 7-14 วัน แต่ไม่ได้เล็กมากถึงขั้นอยู่ในช่วงระหว่างงอก (Sprouts) หรือโตถึงขั้นต้องเรียกว่าต้นเล็ก (Baby greens) พูดให้เข้าใจง่ายก็คืออยู่ตรงกลางระหว่างช่วงงอก (2-5 วัน) กับช่วงที่เป็นต้นเล็ก (21-28 วัน)

ไมโครกรีน กำลังถูกพูดถึงกันอย่างแพร่หลายและกลายเป็นที่นิยมในหมู่ของคนรักสุขภาพ เมล็ดไมโครกรีน   ขณะเดียวกันก็เป็นแหล่งรายได้ใหม่ของเกษตรกรด้วย อีกทั้งยังเป็นแนวทางอาชีพเสริมของคนที่ต้องการปลูกผักขาย เนื่องจากปลูกง่าย ใช้เวลาไม่นานก็ขายได้ ทำให้เพิ่มรอบการผลิตได้อย่างรวดเร็ว ที่สำคัญ คือ เปี่ยมล้นไปด้วยคุณประโยชน์ที่มากกว่าผักทั่ว ๆ ถึง 100 เท่า!

ไมโครกรีนมีประโยชน์มากมายเฉกเช่นเดียวกับผักทั่ว ๆ ไป แตกต่างแค่ตรงที่จะมีปริมาณสารอาหารที่สูงกว่าเท่านั้น โดยเฉพาะผักตระกูลกะหล่ำที่มีสารซัลโฟราเฟน (Sulforaphane) ซึ่งช่วยต้านอนุมูลอิสระ กระตุ้นโปรตีน NRF2 กระตุ้นกระบวนการขจัดสารพิษในตับ กำจัดสารก่อมะเร็งในร่างกาย ลดการอักเสบ ป้องกันการเสียหายของ DNA และยังช่วยชะลอวัยอีกด้วย

ไมโครกรีน” หรือที่หลายคนเรียกว่า “ผักงอก” คือต้นอ่อนของพืชผักหรือสมุนไพรชนิดต่างๆ ที่มาจากการเพาะเมล็ดให้ใบเลี้ยงใบแรกงอกออกมา โดยสามารถเก็บเกี่ยวได้หลังจากงอกประมาณ 1-3 สัปดาห์ ซึ่งขนาดของไมโครกรีนจะอยู่ที่ประมาณ 2.5-7.5 ซม.ขึ้นอยู่กับชนิดของพืชผักนั้นๆ

รู้หรือไม่? ไมโครกรีนมีประโยชน์กว่าผักโตเต็มวัย ปัจจุบันคนเริ่มหันมาใส่ใจในสุขภาพ บริโภคอาหารที่สะอาดปลอดภัยมีประโยชน์กันมากขึ้น แล้วจะดีกว่ามั้ย ? ถ้าเรากินต้นอ่อนผักอย่างไมโครกรีนเพียงไม่กี่กรัม แต่ได้รับคุณค่าของสารอาหารในปริมาณที่มากกว่ากินผักโตเต็มวัย อย่างเช่น การทานต้นอ่อนบรอกโคลี 50 กรัม ได้คุณประโยชน์เทียบเท่าบรอกโคลีโตเต็มวัย 1 หัว

แม้ไมโครกรีนจะมีขนาดเล็ก แต่มีงานวิจัยพบว่า ไมโครกรีนอุดมไปด้วยสารอาหารมากมาย ไม่ว่าจะเป็น วิตามิน C, วิตามิน E, วิตามิน K, ลูทีน และเบต้าแคโรทีนที่สูงกว่าผักชนิดเดียวกันเมื่อโตเต็มวัยถึง 40 เท่า ! รวมถึงมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ทำให้ไมโครกรีนถือเป็นอีกหนึ่ง Functional food ที่ได้รับความนิยมในหมู่คนรักสุขภาพ อย่างไรก็ตามไมโครกรีนแต่ละชนิดก็มีความแตกต่างกันทั้งในแง่คุณค่าทางโภชนาการ สารอาหาร และรสชาติ

 

ไมโครกรีนมีประโยชน์มากมายเฉกเช่นเดียวกับผักทั่ว ๆ ไป

แตกต่างแค่ตรงที่จะมีปริมาณสารอาหารที่สูงกว่าเท่านั้น เมล็ดไมโครกรีน   โดยเฉพาะผักตระกูลกะหล่ำที่มีสารซัลโฟราเฟน (Sulforaphane) ซึ่งช่วยต้านอนุมูลอิสระ กระตุ้นโปรตีน NRF2 กระตุ้นกระบวนการขจัดสารพิษในตับ กำจัดสารก่อมะเร็งในร่างกาย ลดการอักเสบ ป้องกันการเสียหายของ DNA และยังช่วยชะลอวัยอีกด้วย

ส่วนประโยชน์ของต้นอ่อนทานตะวันก็สูงไม่ใช่เล่น เพราะเต็มไปด้วยไฟเบอร์ โปรตีน ธาตุเหล็ก แคลเซียม สังกะสี โพแทสเซียม และไขมันที่ดีต่อร่างกาย ที่พิเศษมาก ๆ คือ ทานตะวันไมโครกรีนมีสาร GABA (Gamma Aminobotyric Acid) ที่ช่วยในเรื่องการควบคุมน้ำหนัก บำรุงสมอง ผิวพรรณ และสายตา ซึ่งนับว่าเป็นศาสตร์ชะลอวัยที่ใคร ๆ ก็ทำได้ นอกจากนี้ ยังสามารถป้องกันโรคมะเร็ง โรคเบาหวาน และการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ เพราะสามารถขจัดเชื้อโรคในปอดได้ด้วย และคุณประโยชน์เหล่านี้ก็สามารถพบได้ในต้นอ่อนผักบุ้งอีกเช่นกัน

การปลูกพืชในระบบบ PFAL มีลักษณะเด่น คือ ดูหนังออนไลน์ 2021 พากย์ไทย  เป็นการปลูกพืชในระบบปิดภายใต้แสงเทียมที่ควบคุมสภาวะแวดล้อมต่างๆ โดยปลูกไมโครกรีนบนชั้นแนวตั้งที่มีการติดตั้งแสงเทียม เลียนแบบแสงธรรมชาติ มีระบบควบคุมสภาพแวดล้อมที่สำคัญ ได้แก่ ระบบปรับอากาศเพื่อควบคุมอุณหภูมิและความชื้น, ระบบหมุนเวียนอากาศ, ระบบควบคุมปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และระบบควบคุมแสงเทียมโดยใช้หลอดไฟ LED

ซึ่งนอกจากช่วยลดความเสี่ยงเรื่องของการปนเปื้อน  เมล็ดไมโครกรีน    การป้องกันโรคจากแมลง และปลอดสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภคแล้ว ยังเอื้อต่อการผลิตในปริมาณมากๆ นอกจากนี้ข้อดีของการเพาะปลูกผักไมโครกรีนแนวตั้ง คือ ทำให้ใช้พื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ต้องพึ่งพาสภาพภูมิอากาศ หรือฤดูกาล ปัจจุบันระบบปลูกพืชภายใต้แสงเทียม หรือ PFAL ได้นำมาใช้ในการปลูกพืชผักที่ให้ผลผลิตมูลค่าสูง ทั้งพืชใบ พืชสมุนไพร และไมโครกรีน เป็นต้น