ดูหนังโจวซิงฉือ หนังไม่กระตุก ดูหนังชัด.

ดูหนังโจวซิงฉือ ตอนทศวรรษ 1990 อันเป็นสมัยที่แวดวงหนังประเทศฮ่องกงเรืองรองถึงจุดสูงสุด

ดูหนังโจวซิงฉือ จนกระทั่งทำให้อุตสาหกรรมหนังประเทศฮ่องกงเป็นอุตสาหกรรมภาพยนตร์ที่ใหญ่เป็นชั้น 3 ของโลก รองจากจากประเทศอินเดียแล้วก็ประเทศสหรัฐอเมริกา เปลี่ยนเป็นขณะที่มีหนังประเทศฮ่องกงออกสู่ตลาดภาพยนตร์ทวีปเอเชียแล้วก็ระดับนานาชาติเยอะมาก รวมทั้งในปริมาณหนังพวกนั้นก็เต็มไปด้วยความมากมายหลากหลายของแบบแล้วก็แนวหนัง และคณะทำงานแล้วก็ดาราที่เป็นตำนานในยุคนี้ก็ล้วนแจ้งเกิดขึ้นมาจากสมัยนั้นทั้งมวล

ซึ่งคนหนึ่งที่ไม่คิดถึงมิได้ซึ่งก็คือ โจวสิงฉือ หรือ สตีเฟน โจว (Stephen Chow) ดาราหนังแนวตลกขบขันล้อเลียนผู้ครอบครองสมญานาม ‘คนเล็ก’ ที่นำเอาแรงผลักดันในความชื่นชมสำหรับในการดูหนัง ดูหนังโจวซิงฉือ  สนับสนุนกระทั่งทำให้เขาแปลงเป็นผู้แสดง ผู้กำกับ รวมทั้งผู้ผลิตภาพยนตร์ตลกประเทศฮ่องกงอัจฉริยะที่เต็มไปด้วยความสามารถพิเศษทางการแสดงแล้วก็ท่าทางเฮฮาอันร้ายมากผู้ครอบครองสมญานาม ‘ราชาภาพยนตร์ตลกประเทศฮ่องกง’ ที่ดังไปทั่วทวีปเอเชียและก็ในระดับนานาชาติ

แม้กระนั้นใครกันแน่จะมีความคิดว่า กว่าที่เขาจะได้เป็นเบอร์หนึ่งของภาพยนตร์ตลกประเทศฮ่องกงอย่างที่ไม่มีผู้ใดกล้าเสมอ เขาเองก็เคยมีสมัยก่อนที่ยากลำบาก ด้วยการเริ่มไต่เต้าจากการเป็นดาราประกอบไม่มีเครดิตโจวสิงฉือ เติบโตในบ้านเล็กๆยากไร้ในสลัมที่เมืองเซี่ยงไฮ้ จีนแผ่นดินใหญ่ อาศัยอยู่กับครอบครัวแม่เลี้ยงโดดเดี่ยว พี่สาว น้องสาว รวมทั้งคุณยาย ส่วนบิดาของเขาแยกทางกับแม่ไปตั้งแต่อายุได้ 7 ขวบ ด้วยความอดอยาก ทำให้แม่ของเขาจำต้องดิ้นรนดำเนินงาน 2 ที่เพื่อหารายได้มาเลี้ยงลูก และก็ส่งลูกๆทั้งยัง 3 คนของคุณให้ได้รับการเรียนรู้

จุดประกายความฝันแล้วก็ตำนานของโจวสิงฉือ เริ่มเมื่อตอนอายุได้ 9 ขวบ เมื่อเขาได้ได้โอกาสดูหนังเรื่อง ‘The Big Boss’ (1971) หรือ ‘พ่อหนุ่มสินตึ๊ง’ หนังกังฟูของค่าย ชอว์บราคุณร์ส (Shaw Brothers) ที่แสดงนำโดย บรูซ ลี (Bluce Lee) แล้วก็หนังของดารานำชายประเทศฮ่องกงดาวรุ่งสมัย 80’s อย่าง โจวเหวินฟะ (Chow Yun Fat)

รวมทั้ง ว่านจื่อเหลียง (Alex Man) แรงผลักดันกลุ่มนี้ทำให้เด็กผู้ชายโจวสิงฉือ ใฝ่ฝันต้องการปฏิบัติงานในแวดวงภาพยนตร์ชนิดเดียวกันกับดาราในดวงใจของเขาเมื่อเขาจบมัธยมศึกษาในปี 1982 เขาได้เริ่มอาชีพดาราด้วยการไปเล่นบทตัวประกอบนิดๆหน่อยๆให้กับโทรทัศน์ซีรีส์ของสถานีส่งสัญญาณโทรทัศน์ Rediffusion Television (RTV)

ซึ่งเป็นสถานีส่งสัญญาณโทรทัศน์ที่แรกของเกาะประเทศฮ่องกง รวมทั้งเขาก็ได้รับคำชี้แนะให้ไปสมัครทำงานในสถานีส่งสัญญาณโทรทัศน์โทรทัศน์บี (TVB) กลับถูกไม่ยอมรับ เขาก็เลยเชิญเพื่อนฝูงยุคมัธยมอย่าง เหลียงเฉาเหว่ย (Tony Leung) ให้ไปสมัครเป็นผู้เรียนการแสดงของ TVB แทน

โจวสิงฉือ Stephen Chowภาพติดหน้าบัตรเด็กนักเรียนการแสดงของ TVB รูปใหญ่ขวาสุดเป็นรูปของโจวสิงฉืออีกทั้งโจวสิงฉือ รวมทั้งเหลียงเฉาเหว่ย ได้เข้ามาเป็นเด็กนักเรียนการแสดงของ TVB รุ่นที่ 10 ก่อนที่จะในอีก 1 ปีถัดมา เขาทั้งสองก็เลยได้ส่งผลงานด้วยกันบนจอคราวแรก ด้วยการรับหน้าที่เป็นผู้ดำเนินรายการของรายการสำหรับเด็ก ‘430 Space Shuttle’

ในปี 1983 ซึ่งหากว่าโจวสิงฉือเองจะเป็นผู้ที่ไม่ค่อยถูกใจเด็ก แม้กระนั้นเขาเอง

ก็ยังเป็นโฆษกในรายการนี้ได้อย่างดีเยี่ยมแต่ว่าสิ่งที่น่าช้ำใจก็คือ ด้วยใบหน้าของเขาที่ซึ่งพูดได้ว่าค่อนไปทางธรรมดา ทำให้เขายังมิได้รับการแจ้งกำเนิดอย่างเต็มกำลังในฐานะผู้แสดงพลาดท่า อย่างยอดเยี่ยมที่สุดก็คือได้ได้โอกาสเริ่มแสดงเป็นตัวประกอบให้กับโทรทัศน์ซีรีส์ของ TVB บ้าง ตอนที่เพื่อนฝูงร่วมรุ่นอย่าง ดูหนังโจวซิงฉือ เหลียงเฉาเหว่ย

ที่มีต้นทุนทางสวยกว่า กลับได้รับการสนับสนุนให้เป็นดารานำชายโทรทัศน์ซีรีส์ โน่นก็เลยทำให้เหลียงเฉาเหว่ชูลายมาเป็นผู้แสดงนำชายแถวหน้าของ TVB ในช่วงเวลาอันเร็ว แล้วก็เปลี่ยนมาเป็นพวกน้องเล็กของห้าเสือโทรทัศน์บี (The Five Tiger Generals of TVB) กรุ๊ปผู้แสดงฝ่ายชายตัวท็อปของ TVB

ในช่วงเวลาที่โจวสิงฉือก็ยังคงเป็นดาราประกอบ เข้ากองนั้นออกกองนี้ เป็นราษฎร 1 ประชาชน 2 เป็นตัวประกอบไม่มีเครดิตตลอดมา แล้วก็ที่ตลกขบขันร้ายก็คือ ในโทรทัศน์ซีรีส์เรื่อง ‘เทพยดาสลัม’ หรือ ‘Soldier of Fortune’ (1982) ที่มีเหลียงเฉาเหว่ยร่วมเป็นผู้แสดง ก็ยังมีสหายอย่างโจวสิงฉือร่วมแสดงเป็นตัวประกอบในซีรีส์เรื่องเดียวกันด้วย

จวบจนกระทั่งปี 1986 โจวสิงฉือก็เลยได้เริ่มข้ามฝั่งจากแวดวงโทรทัศน์ ไปเป็นดาราภาพยนตร์ในหนังเรื่อง ‘A Better Tomorrow’ (1986) หรือ ‘ชั่วร้าย ชั่วช้า ดี’ ที่มีนักแสดงในดวงใจของเขาอย่าง โจวเหวินฟะ ร่วมแสดง แม้กระนั้นเขามิได้ไปเป็นบทดารานำชาย หรือบทสมทบอะไร เพราะว่าในที่สุดเขาก็ได้ไปรับบทบาทเป็นตัวประกอบในหนังอยู่ดี โดยเขาได้ร่วมแสดงในฉากสำคัญ ก่อนที่จะโดนไอดอลในดวงใจของเขาบุกเข้ามายิงตายข้างในเสี้ยววินาที จำพวกที่ถ้าเกิดกะพริบตา

หรือก้มจับป๊อปคอร์น ก็บางทีก็อาจจะพลาดมองเห็นซีนนั้นไปเลยก็ได้ภายหลังยังคงทรหดอดทนรับงานตัวประกอบมาอย่างนาน เขาก็พึ่งได้ได้โอกาสรับบทบาทสมทบที่กำลังเริ่มจะมีเคความรักดบ้างแล้ว ทั้งยังในหนังแอ็กชันดราม่า ‘He Who Chases After the Wind’ (1988) หรือ ‘ชั่วร้ายเพียงแค่แหลก’ ที่แสดงโดย ว่านจื่อเหลียง

ที่ทำให้เขาเปลี่ยนเป็นดาราหนังดาวรุ่ง รวมทั้งหนังแอ็กชันตำรวจเรื่อง ‘Final Justice’ (1988) หรือ ‘เฉ่งไอ้คุณโป’ ที่แสดงนำโดย หลี่ซิ่วเสียน (Danny Lee) ซึ่งโน่นก็ทำให้เขาได้รับรางวัลการแสดงแรกในชีวิต มันก็คือรางวัลม้าทอง (Golden Horse Awards) สาขาดาราสมทบชายเยี่ยมที่สุดมาครอบครองได้อีกด้วย

จากผลงานด้านภาพยนตร์ ทำให้เขาเริ่มมีชื่อมากขึ้นมาอีกนิด จนกระทั่งทำให้เขาได้ขยับขึ้นมาสวมบทสมทบในซีรีส์ของ TVB ด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในซีรีส์ ‘The Price Of Growing Up’ (1987) หรือ ‘ค่าของคน’ ร่วมกับ ว่านจื่อเหลียง ดารานำชายในดวงใจอีกคนของเขา ด้วยหน้าที่ตลกโปกฮาอันสะดุดตา ส่งให้เขาได้รับบทผู้แสดงนำชายตลกโปกฮา

เป็นครั้งแรกในซีรีส์พลังภายใน ‘The Final Combat’ หรือ ‘จอมยุทธผงาดฟ้า’ในปี 1989 ที่เป็นการชี้แนะศิลปินตลกคนใหม่ให้มีชื่อเสียงของผู้ชมแต่ว่าโน่นก็พูดได้ว่าเป็นส่วนน้อยมากมายๆในอาชีพการแสดง เพราะว่าเขาเองก็ยังคงจำเป็นต้องปฏิบัติภารกิจเป็นตัวประกอบอยู่ ก่อนที่จะหมดสัญญากับทาง TVB แล้วก็เปลี่ยนเป้าหมายไปสู่แวดวงภาพยนตร์อย่างสุดกำลังในเวลาถัดมา

โจวสิงฉือในช่วงปลายสมัย 80’s ก็ยังวนเวียนอยู่กับการเล่นบทสมทบและก็ตัวประกอบในหนังอีกหลายเรื่อง อีกทั้ง ‘Dragon Fight’ (1989) หรือ ‘มังกรชนเมือง’ คู่กับ เจ็ท ลี (Jet Li) ‘Just Heroes’ (1989)หรือ ‘ชั่วร้ายแตกเหลี่ยม’ ผลงานร่วมดูแลของผู้กำกับแอ็กชันชั้นเอก จอห์น วู (John Woo) และก็สวมบทบาทพระรองเกาะติด

จางเซียะโหย่ว (Jacky Cheung) ในหนังแอ็กชันตลกโปกฮา ‘Curry and Pepper’ (1990) หรือ ‘ชั้นหนึ่งอ๋าเทพเทวดาฝากมากมายวน’จุดเปลี่ยนแปลงแล้วก็สมัยเรืองรองในอาชีพดาราหนังของเขาเริ่มในอีกทศวรรษต่อมา ในปี 1990 เมื่อค่าย โกลเดนฮาร์เวสต์ (Golden Harvest) ค่ายภาพยนตร์ยักษ์ใหญ่ของประเทศฮ่องกง ดูหนังโจวซิงฉือ ได้เริ่มสร้างภาพยนตร์ที่ต่อยอดการบรรลุเป้าหมายจากหนังมาเฟียการเดิมพันเรื่อง

‘God of Gamblers’ (1989) หรือ ‘คนตัดคน’ ที่ส่งให้โจวเหวินฟะ มีชื่อเสียงไปทั่วทวีปเอเชียในหน้าที่คนเล่นพนันเกาจิ้ง เปลี่ยนเป็นหนังล้อเลียนเรื่อง ‘All for the Winner’ (1990) หรือ ‘คนตัดเซียน’โดยได้โจวสิงฉือมาสวมบทนำเป็นครั้งแรก เกาะติดนางเอก จางเหมี่ยน (Sharla Cheung) กับดาราสมทบคู่บารมีอย่าง อู๋ม่งต๊ะ (Ng Man-tat)

ตัวหนังประสบผลสำเร็จอย่างถล่มทลายไปทั่วทวีปเอเชีย เป็นหนังที่ทำรายได้สูงสุดของประเทศฮ่องกงในปี 1990 ส่งให้อีกทั้งโจวสิงฉือแล้วก็อู๋ม่งต๊ะ ได้เข้าชิงรางวัลประเทศฮ่องกงฟิล์มถ่ายรูปอวอร์ด (Hong Kong Film Awards) ครั้งที่ 10 ในปี 1991 แจ้งกำเนิดโจวสิงฉือ ในฐานะดาวตลกคนใหม่ได้อย่างงดงามยิ่งไปกว่านี้

‘คนตัดเซียน’ ยังเป็นแรงส่งให้โจวสิงฉือเป็นเจ้าที่นักแสดงเฮฮาล้อเลียนอีกด้วย โน่นก็เลยทำให้ภาพยนตร์ตลกสมัยแรกๆของเขาก็เลยชอบเป็นหนังแนวล้อเลียน ที่ถือเอาวรรณกรรมจีน หนังพลังภายใน หนังกังฟูของบรูซลี หรือแม้กระทั้งการ์ตูนประเทศญี่ปุ่นดังๆหรือหนังฮอลลีวูดระดับนานาชาติ มายำใหม่ในสไตล์ตลกโปกฮาไม่มีประโยชน์บ้าๆสติไม่ดีๆแต่ว่าเปี่ยมไปด้วยเชิงชั้น ผสมจังหวะตลกโปกฮากับดราม่าอย่างพอดิบพอดี กระทั่งทำให้ตัวหนังเป็นที่ชอบใจ

ของแฟนคลับในสมัย 90’s โจวสิงฉือกลายเป็นผู้ผูกขาดหนังประเทศฮ่องกงแนวขำขัน

เดียวที่หาคนไหนกันแน่เท่าเทียมได้ยาก กระทั่งทำให้เขาส่งผลการงานแสดงหนังอีกเยอะแยะ เทียบเคียงชั้นซูเปอร์สตาร์ดาวบู๊รุ่นพี่ อย่าง เฉินหลง (Jackie Chan) และก็ผู้แสดงนำชายดราม่า หลิวเต๋อหัว (Andy Lau) จนกว่าเขาเริ่มพึงพอใจที่จะหันมาเขียนบท แล้วก็ดูแลหนังด้วยตัวเองเป็นครั้งแรกใน ‘Flirting Scholar’ (1993) หรือ ‘ถังไป่หู่ ใหญ่ไม่ต้องประกาศ’ แล้วก็ลงทุนเปิดบริษัทหนังของตนในชื่อ

สตาร์ โอเวอร์ซี (Star Overseas) ผลิตหนังออกมาอีกหลายสิบเรื่องในเวลาถัดมาและก็เนื่องจากว่าเขาเองวนเวียนกับการเป็นดาราประกอบไม่มีเครดิตมานับสิบปี หากพินิจดีๆก็จะพบว่า  dopee1984 hd  ในหนังที่เขาเขียนบทรวมทั้งควบคุม ก็ชอบขาดศิลปินสมทบรวมทั้งตัวประกอบติดอยู่แรกเตอร์เด่น ที่พร้อมจะงับลักขโมยซีนเกือบทุกเรื่องไปมิได้ ยกตัวอย่างก็ได้แก่ อู๋ม่งต๊ะ ที่เปลี่ยนมาเป็นคู่ขาคู่ฮาที่จำเป็นมากในหนังโจวสิงฉือนับสิบเรื่องและเหล่าดาราสมทบติดอยู่แรกเตอร์แปลกๆที่คนจำนวนไม่น้อยยังนึกออก เป็นต้นว่า พี่เหน่ง นักคิดค้นสติเฟื่อง

ใน ‘From Beijing with Love’ (1994) หรือ ‘พยัคฆีไม่ร้าย คัง คัง ฉิก’, ไอ้จืดชืด เด็กแนวนั่งขี้ ใน ‘Kung Fu Hustle’ (2004) หรือ ‘คนเล็กหผูกเทพเจ้า’, น้องมด ใน ‘CJ7’ (2008) หรือ ‘คนเล็กของเด็กเล่นใหญ่’ แล้วก็ ‘Shaolin Soccer’ (2001) หรือ ‘นักฟุตบอลเสี้ยวลิ้มยี่’ ที่เนืองแน่นด้วยหน้าที่สมทบที่ฮาไม่แพ้ผู้แสดงหลัก ดูหนังโจวซิงฉือ หรือแม้กระทั้ง *เฉินหลง แอ็กชันซูเปอร์สตาร์ระดับนานาชาติ ก็ยังเคยเล่นบทเป็นตัวประกอบในหนัง ‘King of Comedy’ (1999) หรือ ‘คนเล็กไม่เกรงใจแดนนรก’ มาแล้ว

*ส่วนโจวสิงฉือ ก็เคยไปสวมบทบาทสมทบในหนัง ‘Gorgeous’ (1999) หรือ ‘เบ่งหัวใจฟัดให้ใหญ่’ ของเฉินหลงเป็นการแลกด้วยเช่นเดียวกันหนังแนวนักเล่นการพนัน-ขบขัน เขียนบทและก็ควบคุมโดย หว่อง จิง แสดงนำโดย หลิว เต๋อหัว, โจว สิงฉือ รวมทั้ง อู๋ ม่งต๊ะ ภาพยนตร์หัวข้อนี้เป็นภาคต่อของ คนตัดคน, แล้วก็ทางผู้ผลิตได้นำเอาคาแรคเตอร์ของหลิว เต๋อหัวไปสร้างเป็นภาพยนตร์เรื่องใหม่ เป็นเรื่อง คนตัดเซียน, แสดงนำโดย โจว สิงฉือ รวมทั้ง อู๋ ม่งต๊ะ

ภาพยนตร์ประเด็นนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวเนื่องกับ God of Gamblers Returns อะไร โดยภาพยนตร์ประเด็นนี้เอ่ยถึงอาสิงเป็นผู้มีพลังพิเศษ แล้วก็เขาเองก็ต้องการไปสมัครเป็นลูกศิษย์ของโคตรเซียน เกาจิ้ง แม้กระนั้นไม่อาจจะติดต่อได้ก็เลยติดต่อไปยังศิษย์ของโคตรเซียน ทำให้พวกเขา จะต้องเข้าไปเกี่ยวพันกับเรื่องราวของอาเต๋า

แล้วก็พวกเขาก็ได้ยื่นมือเข้าช่วยเหลือทำให้พวกเขาได้ชื่อเสียงคืนและก็อาสิงก็ได้เป็น ลูกศิษย์โคตรเซียนอย่างที่อยากหนังล้อเลียน ภาพยนตร์ชุดเจมส์ บอนด์ 007 เพชรฆาตปืนทองได้ลักขโมยซากฟอสซิลกะโหลกของไทแรนโนซอรัสซึ่งเป็นทรัพย์สมบัติของชาติไป “คังคังฉิก” สมัยก่อนสายที่ถูกไล่ออกเนื่องจากว่าความฉลาดทางสติปัญญาต่ำจนกระทั่งจำต้องหันไปขายหมูอยู่ที่ตลาดเชินเจิ้น นับ 10 ปี กลับถูกทางการเรียกตัวมาเพื่อทำคดีนี้และก็ถูกส่งไปประเทศฮ่องกงโดยข้าราชการขั้นสูงของรัฐบาลเพื่อไปยึดฟอสซิลคืนมา

แต่ เหตุเพราะรายละเอียดเล็กน้อยของภาพยนตร์ประเด็นนี้ มีการแสดงเครื่องหมายเป็นการเสียดสีพรรคลัทธิคอมมิวนิสต์จีนก็เลยไม่อาจจะเผยแพร่ภาพยนตร์ฉบับเต็มภายในประเทศจีนได้ โดยในเวอร์ชันที่ฉายและก็เผยแพร่ในประเทศจีนมีการตัดรายละเอียดในบางฉากออกอุ้ยเพื่อนป้อ จอมยุทธเย้ยยุทธจักร หรือในขณะนี้เป็น อุ้ยเพื่อนป้อเป็นภาพยนตร์ประเทศฮ่องกงพลังภายในแนวตลกขบขัน ผลิตขึ้นเมื่อปี คริสต์ศักราช 1992 ดูแลโดย หวังจิง

เป็นภาพยนตร์ที่สร้างขึ้นมาจากเรื่อง อุ้ยเพื่อนป้อ ของกิมย้ง แสดงนำโดยโจว สิงฉือ, หลิน ชิงเสีย เรื่องราวที่ว่าด้วยอุ้ยเพื่อนป้อ ภาคถัดไปของภาพยนตร์หัวข้อนี้เป็น อุ้ยเพื่อนป้อ ดูหนังโจวซิงฉือ จอมยุทธเย้ยยุทธจักร 2 ที่ออกฉายในปีเดียวกัน
อุ้ยเพื่อนป้อ มีนิสัย ปลิ้นปล้อน หลักแหลมจริงๆ

รู้จักเอาชีวิตรอด จนกระทั่งวันหนึ่งเขาได้ช่วยเหลือกษัตริย์พรรคฟ้าดินไว้ได้ เฉินจิ้นดกนก็เลยได้รับเขาเป็นลูกศิษย์รวมทั้งเปลี่ยนเป็นหัวหน้าพรรคฟ้าดิน กระทั่งถูกส่งตัวเข้าไปในวังหลวงเพื่อฆ่า คังซีฮ่องเต้ แต่ว่ากับเกิดเหตุการณ์กลับ ทำให้เขาเปลี่ยนเป็นเพื่อนของคังซีฮ่องเต้ ไปโดยไม่ทันรู้สึกตัว