เม็ดฟู่ คือ แคลเซียมเม็ดฟู่ ใช้ละลายน้ำดื่ม
เม็ดฟู่ คือ เพื่อจะช่วยรักษาภาวะการขาดแคลเซียมระยะเฉียบพลันและเรื้อรัง นอกเหนือจากนั้นนี้ยังช่วยรักษาความผิดปกติของเมตาบอลิสมของแคลเซียมในกระชมก ผลิตในเวอร์ชั่นเม็ดฟู่ รับประทานไม่ยาก 1 ขวด จำนวน 20 เม็ดวิตามินซี วิตามินยอดฮิตชั่วนิจนิรันดร์หลายท่านครั้งหนึ่งในชีวิต น่าจะได้เคยทานวิตามินซี ตั้งแต่ตัวเล็กๆหรือไม่ก็อาจจะเป็นระหว่างวัยใดวัยหนึ่ง ตั้งแต่ในเวอร์ชั่นเม็ดอม แบบเม็ดรับประทานกับน้ำ หรือ ต้นแบบฉีด ที่ขายกันเกลื่อนเน็ต แต่ยี่ห้อที่อย่างกับๆและคนนิยมทานดังเช่น ,
สำหรับคนที่เคยทานวิตามินซีแบบเม็ดขนาด 1000 มิลลิกรัม จะทราบได้เลยว่าเม็ดมันโต มากกกก ทำให้หลายๆคนอยากจะทานวิตามินซี แต่ไม่อาจจะทานได้เพราะว่ากลืนเม็ดยากลำบาก ส่งผลให้คนไม่ใช่น้อยหันมาทานวิตามินแบบเม็ดฟู่ แต่ก็ยังมีข้อสงสัยว่ามันได้ผล
เหมือนแบบเม็ดมั้ย แล้วที่ฟู่ๆมันอันตรายมั้ยวิตามินซีแบบเม็ดฟู่ได้ผลดีเหมือนเม็ดทั่วไปม้ัยคำตอบคือ…สังกัดแต่ละยี่ห้อ เนื่องจากจะต้องชมที่องค์ประกอบว่ามีจำนวนวิตามินซีในเม็ดนั้นมีอยู่เท่าไร เพราะวิตามินซีที่สามารถจะช่วยสำหรับการเสริมภูมิคุ้มค่ า เม็ดฟู่ คือ กันให้กับร่างกายหรือบำรุงผิว เพื่อจะการชะลอวัย ให้ได้ดิบได้ดีนั้นโดยมากแล้วที่จะเห็นผลได้ดิบได้ดีเราคงจำเป็นที่จะต้องทานมากยิ่งกว่า 500 มก หรือ 1000 มก ขึ้นไป ดังเช่น ยี่ห้อ ถึงแม้ว่าขนาดที่บอกต่อ (THAI RDI) จะอยู่ที่ 60 มก ก็ตามคนกำลังมองหาเครื่องช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ให้ร่างกายเเข็งเเรง ห่างไกลจากความเสี่ยงในเหตุการณ์โควิด – 19 แบบนี้
การทานวิตามินซีเป็นเยี่ยมในตัวคัดเลือกที่ดี
เพราะว่ามีคุณประโยชน์ต่อร่างกาย เเละตอนสร้างภูมิต้านได้ เเต่ถ้าอยากทานได้ผลดีจำนวนเยอะที่สุด เราควรจะจะรู้ดีว่า วิตามินซี กินณ เวลาไหนยอดเยี่ยม เพื่อจะให้ทานเเล้วได้คุณประโยชน์ที่สุด พี่หมีบิ๊กกี้เลยต้องการนำสาระวิชาความรู้ดีๆมาฝากกันจ้ะวิตามินซี กับ 10 ข้อจำเป็นต้องทราบ
วิตามินซีมีกี่เเบบ กินเช่นไร กินวิตามินซีเวลาไหนดี เป็นประโยชน์ยังไงต่อร่างกาย
ขนาดวิตามินซี ที่กินแล้วส่งผลให้ร่างกายชมดซับวิตามินซีได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด คือ การกินขนาด 60 มิลลิกรัม ต่อวันตอนที่ควรทานวิตามินซี วิตามินซีจะถูกขับไปจากร่างกายในช่วง 2 -3 ชั่วโมงข้างหลังทานอาหาร ดังนี้ระยะเวลาที่เหมาะสมกับการทานวิตามินซีคือ
ตอนเช้าหรือเย็นโดยควรจะกินพร้อมอาหาร หรือ ข้างหลังอาหาร เเละไม่ควรกินวิตามินซี ตอนท้องว่าง แคลเซียม เป็นอย่างไรแคลเซียมเป็นแร่ธตุที่เผชิญมากที่สุดในร่างกาย ซึ่งคือบทั้งหมดจะอยู่ในกระชมกและฟัน ในร่างกายคนหนัก 50 กิโลกรัม จะมีแคลเซียมอยู่ประมาณ 1 กิโลกรัม แคลเซียมมีหน้าที่สำคัญต่อรูปแบบการทำงานของร่างกายแทบจะทุกส่วน และที่สำคัญยังมีบทบาทสร้างกระชมก ซึ่งเป็นองค์ประกอบหลักของร่างกาย
การคัดสรรค์รับประทานแคลเซียมให้ได้ผลแคลเซียมที่ละลายน้ำได้ดิบได้ดี อย่างเช่น แคลซียมซิเตรท แคลเซียมแลคเตท กลูโคเนท การรับประทานแคลเซียมจำพวกเม็ดฟู่ หรือผงชงดื่มจะละลายได้ได้เปรียบกว่าจำพวกเม็ดการรับประทานครั้งละ 600-800 มิลลิกรัม ดูดซึมได้เป็นต่อกว่าจำนวนมาก ๆ
ควรรับประทานแคลซียมพร้อมมื้ออาหารเย็น เนื่องจากว่าช่วงเวลายามค่ำคืนเป็นณ เวลาที่แคลเซียมไหลออกมาจากกระดูกสูงที่สุด จำนวนแคลเซียมที่สูงขึ้นจะปกป้องการไหลออกไปจากกระชมก คุ้มครองป้องกันไม่ให้กระดูกบางได้ วิตามินเม็ดฟู่ คือ วิตามินที่อยู่ในแบบอย่างของยาเม็ด เมื่อนำวิตามินเช่นนี้ไปบรรจุน้ำ จะมีผลให้วิตามินแตกตัวและเกิดฟองฟู่ ซึ่งส่งผลให้พวกเราสามารถกินได้ง่ายดายยิ่งกว่าเดิมและเหมาะสำหรับคนที่มักมีอุปสรรคการกินยาแบบเม็ดมิได้
ส่วนดียังมีอีกอย่างของวิตามินเม็ดฟู่ นั่นก็คือ เหมาะสมกับวิตามินที่สลายตัวได้ เม็ดฟู่ คือ ไม่ยากหรือวิตามินที่มีฤทธิ์กัดกร่อนทางเดินอาหาร เพราะว่าเมื่อวิตามินฟองฟู่แตกตัวในน้ำก็จะก่อให้ง่ายต่อการชมดซึมและไม่ตกค้างในทางเดินอาหาร นอกเหนือจากนี้นี้วิตามินแบบเม็ดฟองฟู่
ยังสามารถจำนวนตัวยาได้ถึง 2,000 มิลลิกรัม ซึ่งเป็นขนาดที่ไม่เหมาะกับการผลิตแบบยาเม็ดทั่วไป ซึ่งสำหรับคนที่อยากจะกินวิตามินเพื่อช่วยให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่าขึ้น แต่ไม่ชอบการกินยาเม็ด ไม่ชอบการกลืนยาเม็ดใหญ่ ๆ ก็พยายามเปลี่ยนแปลงมากินวิตาิมนแบบเม็ดฟู่ก็ได้ เพื่อจะที่สามารถจะช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วนมากขึ้นจ้ะ
สารสกัดจากองุ่น งานวิจัยและสรรพคุณองุ่น (Vitis vinifera L.) เป็นไม้ผลที่มีถิ่นกำเนิดแถบ Asia Minor บริเวณทางตอนใต้ช่วงทะเลดำและทะเลแคสเปียน สามารถเจริญเติบโตได้ดิบได้ดีในขณะละติจูด 15 – 45 องศาเหนือและใต้ อุณหภูมิที่สมควรอยู่ภายในตอน 15 – 35 องศาเซลเซียส เป็นพืชเถาเลื้อยประเภทที่มีเนื้อไม้ซึ่งมีอายุยืนยาวได้หลายๆสิบปีหรือนับร้อยปี องุ่นจัดอยู่ภายในวงศ์ (Family) Vitis โดยทั่วทั้งโลกมีอยู่โดยประมาณ 60 ประเภท (Species) แต่จำพวกที่นิยมปลูกกันเยอะที่สุดคือ Vitis vinifera เหตุเพราะปลูกไม่ยาก ให้ผลดก และผลผลิตมีประสิทธิภาพสูง ทำให้องุ่นเป็นไม้ผลที่มีพื้นที่ปลูกมากที่สุดในโลกถึง 46.9 ล้านไร่ ซึ่งกระจายอยู่ในหลาย ๆ ประเทศทั้งโลก อย่างเช่น สเปน คนต่างประเทศเศส อิตาลี จีน ออสเตรเลีย แอฟริกาใต้ ตุรกี เป็นต้น
ส่วนในประเทศไทยนั้น เกิดการสันนิษฐานว่าคงจะมีการนำเข้ามาปลูกตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 โดยพระองค์ได้นำพันธุ์พืชแปลกๆจากหลากหลายที่ที่เสด็จประพาส เข้ามาปลูกในไทย โดยเชื่อกันว่าหนึ่งในนั้นคงจะมีต้นองุ่นด้วย แต่ที่มีหลักฐานรับรองแจ่มแจ้งและชัดเจนก็คือ
ในสมัยรัชกาลที่ 7 ได้เริ่มเกิดการปลูกองุ่นกันบ้างแล้วแต่ผจำลองุ่นที่ได้นั้นมีรสเปรี้ยว จึงไม่เป็นที่ชื่นชอบปลูกเท่าที่ควรจะ และใน พ.ศ.2493 หลวงสมานนวกิจ ได้นำพันธุ์องุ่นจากแคลิฟอเนียมาปลูก อันเป็นการเริ่มต้นทดทดสอบปลูกอีกทีอย่างเป็นจริงเป็นจัง จนกระทั่งปี พุทธศักราช2497 ดร.พิศ สติปัญญาลักษณ์ นำพันธุ์องุ่นจากยุโรปมาทดลองปลูกแล้วได้ผลดีนับแต่นั้นการปลูกองุ่นในไทยจึงแพร่หลายขึ้น อาหารเสริม สารสกัดจากกระเทียมดำ จากยี่ห้อ B-Garlic (บีการ์ลิค)
กระเทียมดำ จัดเป็นอาหารที่มีคุณประโยชน์ต่อร่างกายของมนุษย์เป็นอย่างมาก และเกิดการบริโภคกระเทียมดำอย่างครอบคลุมในประเทศจีน เกาหลี และ ญี่ปุ่น โดยบันทึกเรื่องราวงานวิจัย จากสถาบันอุดมศึกษามหิดลชี้เฉพาะว่า กระเทียมดำ มีสาร S-allylcysteine (SAC) ซึ่งเป็นสารที่ละลายน้ำ และมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระสูง นอกจากนี้นี้ กระเทียมดำยังมีคุณสมบัติช่วยลดไขมันในเลือด ต้านการอักเสบ ต้านมะเร็ง ออกฤทธิ์คุ้มครองตับ อีกต่างหาก (อ่านเพิ่มเติมได้ที่ pharmacy.mahidol.ac.th)
ซึ่งอาหารเสริม กระเทียมดำจาก B-Garlic (บีการ์ลิค) มีสาร SAC (S-Ally L-Cysteine) สูงยิ่งกว่ากระเทียมสดถึง 13 เท่า ก็เลยนำมาซึ่งการทำให้เมื่อทานกระเทียมดำเสมอๆ จะมีส่วนช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย คุ้มครองป้องกันหวัด และอาการภูมิแพ้ ยิ่งกว่านั้นนี้ กระเทียมดำ บีการ์ลิค ยังมีส่วนช่วยดูแลระบบไหลเวียนเลือด ปรับเกรดความดัน ปรับอันดับน้ำตาลในเลือด และปรับชั้นไขมันและคอเลสเตอรอลในเลือดได้อีกต่างหาก
แต่สำหรับใครที่เกลียดชังทานกระเทียมเป็นทุนเดิม และยังไม่มั่นใจว่ากระเทียมดำจะทานไม่ยากมากแค่ไหน เราไม่ได้อยากต้องการให้คุณไม่ค่อยสบายใจไป เพราะว่ากระเทียมดำ บีการ์ลิค มีรสหวาน ทานไม่ยาก ไร้กลิ่นฉุนกวนใจเหมือนกระเทียมสดแน่ๆ
อาจจะเป็นเหตุเพราะชีวิตอันขะมักเขม้นและไลฟ์สไตล์แบบคนเมือง ที่เป็นปัจจัยให้ เม็ดฟู่ คือ ใครคนจำนวนไม่น้อยละเลยเรื่องอาหารการกิน จนจะต้องหันมาเพิ่งสินค้าเสริมอาหาร เพื่อตอบแทนสารอาหารที่ไม่พอเพียงในแต่ละวัน แต่รู้หรือเปล่าคะว่า การบริโภคผลิตภัณฑ์เสริมอาหารต่างๆ อาจจะไม่น่าจะใช่ทางลัดสำหรับสุขรูปที่ดีอย่างที่พวกเรารู้เรื่องกันก็ได้ มิมิหนำซ้ำยังอาจนำมาซึ่งอันตรายอย่างที่เมูลค่าดไม่ถึงอีกด้วย ขั้นแรก เรามาดู…
เรื่องที่ไม่คาดฝันที่เป็นผลมาจากการกินอาหารเสริมไม่ถูกๆ
การกินอาหารเสริมเป็นเวลานานๆ หรือกินโดยขาดวิชาความรู้ คงนำมาซึ่งการก่อให้เกิดเหตุที่ไม่คาดฝันต่อสุขภาพ 2 ประการโรคกำเริบ การกินอาหารเสริมโดยขาดวิชาความรู้ คงจะนำมาซึ่งอันตค่าแรงงาน โดยยิ่งไปกว่านั้นกับคนที่มีโรคประจำตัวอยู่แล้ว เนื่องจากอาหารเสริมบางชนิดไม่ถูกกับโรคบางโรค อย่างเช่น โสม ไม่เหมาะสมกับคนที่เป็นความดันโลหิตสูง เพราะทำให้เส้นเลือดบีบตัวแรงขึ้น น้ำมันปลา ไม่เหมาะกับผู้ป่วยเบาหวาน เพราะนำมาซึ่งการทำให้ลำดับชั้นน้ำตาลในเลือดเพิ่มเติมอีกสูงมากขึ้น หรืออาหารเสริมแบบชงละลายน้ำในจำนวนมากและอาหารโซเดียมสูง ไม่เหมาะสมกับผู้ป่วยโรคดวงใจ เพราะว่านำมาซึ่งการทำให้ศักยภาพของหัวใจด้านขวาปฏิบัติการด้อยลง จนกำเนิดอาการขาบวมได้
สะสมในร่างกาย การกินอาหารเสริมเพื่อที่จะบำรุงร่างกายเป็นขณะนาน คงจะมีเหตุที่ไม่คาดฝันที่อาหารเสริมเหล่านั้นเข้าไปรวบรวมในร่างกาย จนกำเนิดเป็นอันตค่าแรงงาน อย่างเช่น อาหารเสริมช่วยผิวสว่าง ในระยะยาวอาจจะมีผลต่อตับ มิหนำซ้ำทำให้เส้นเลือดไม่แข็งตัว และเลือดออกตามผิวหนังได้ด้วย หรือแม้กระทั้งวิตามินซี แม้ชมเผินๆ เหมือนไม่อันตราย เพราะเหตุว่าสามารถละลายน้ำได้ แต่มีการเรียนรู้เผชิญว่า การได้รับวิตามินซีในจำนวนมากกว่า 1 กรัมต่อวัน อาจจะส่งผลให้กำเนิดนิ่วในไตได้ เนื่องมาจากมีการขับวิตามินซีออกทางปัสสาวะในภาพออกซาเลตและกรดยูริกมากยิ่งกว่าปกติ
เคล็ดวิธีเสริมความงาม, บำรุงส่วนที่ใช้ในการประมวลผลและลดน้ำหนักโดยไม่จำเป็น เม็ดฟู่ คือ จะต้องเพิ่งอาหารเสริมสมัยนี้เทรนด์สุขภาพกำลังเดินทางมาแรง ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย หรือการหันมากินอาหารที่มีอยู่ในธรรมชาติโดยตรง ซึ่งนับเป็นอีกวิถีทางที่ไม่มีอันตรายต่อสุขภาพมากมายยิ่งกว่าเพิ่งอาหารเสริม แถมยังช่วยมัธยัสถ์เงินในกระเป๋าอีกด้วย
